รอยช้ำ อาการช้ำ และวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น

รอยช้ำ - พัฒนาการเด็ก

ช้ำหรือรอยช้ำเป็นอาการบาดเจ็บที่ปรากฏบนผิวหนังและเป็นอาการที่สามารถพบได้ในคนทุกเพศทุกวัย ซึ่งเกิดจากเลือดออกภายในเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในชั้นผิวหนังหรืออยู่ลึกลงไปใต้เนื้อเยื่อผิวชั้นบน ในช่วงแรก อาการช้ำจะมีลักษณะเป็นสีม่วงคล้ำ ก่อนที่สีจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ในระหว่างการรักษา และผิวจะกลับไปเป็นปกติเมื่อร่างกายดูดซึมเลือดในชั้นผิวหนังกลับเข้าไปตามเดิม ทั้งนี้การเกิดรอยช้ำอาจแตกต่างกันไปตามอายุ อย่างการที่เด็กเกิดรอยช้ำได้ยากกว่าผู้สูงอายุเพราะเมื่ออายุมากขึ้นหลอดเลือดก็จะมีความบอบบางมากขึ้นตามไปด้วย หรืออาจมีสาเหตุมาจากการใช้ยาบางชนิดที่ขัดขวางการแข็งตัวของเลือดจนทำให้เลือดออกในผิวหนังหรือเนื้อเยื่อมากขึ้นได้ ดังนั้น การรู้ถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสาเหตุ การปฐมพยาบาลและการรักษาเมื่อเกิดรอยช้ำจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม สาเหตุต่าง ๆ ที่อาจทำให้เกิดรอยช้ำ อาการช้ำ โดยทั่วไป อาการช้ำมักเกิดจากการได้รับการกระทบกระเทือนในบริเวณผิวหนัง มักพบได้มากในผู้ที่ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาเป็นประจำ อย่างนักกีฬา หรือเกิดขึ้นจากการฉีกขาดขนาดเล็กของหลอดเลือดใต้ผิวหนัง อีกทั้งรอยช้ำยังอาจเกิดจากการได้รับอุบัติเหตุ ข้อเท้าแพลง มีภาวะกล้ามเนื้อฉีก และการใช้ยาหรืออาหารเสริมชนิดต่าง ๆ เช่น ยาป้องกันการเกิดลิ่มเลือด (Blood Thinners) ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) หรือน้ำมันปลา เป็นต้น รอยช้ำยังอาจปรากฏขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด อาทิ ร่างกายอาจกระแทกกับสิ่งของต่าง ๆ โดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นขอบประตู ขอบเตียง หรือเก้าอี้ และยังพบได้ในผู้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติโดยเฉพาะผู้ที่มีรอยช้ำร่วมกับการมีเลือดออกตามไรฟันหรือเลือดกำเดาไหลได้ด้วยเช่นกัน เมื่อเกิดรอยช้ำ ควรทำอย่างไร รอยช้ำมักหายไปเองภายในเวลาไม่นาน แต่รอยช้ำมักมาพร้อมกับอาการเจ็บและบวม โดยผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บมากที่สุดในช่วง 1–2 วันแรกหลังได้รับบาดเจ็บ และสีของอาการช้ำที่ปรากฏจะเปลี่ยนไปตามเวลา ซึ่งวิธีการปฐมพยาบาลที่จะช่วยลดรอยช้ำและบรรเทาอาการเจ็บที่อาจเกิดขึ้นนั้นสามารถทำได้ด้วยวิธีต่าง ๆ […]

วิตามินบำรุงสายตา แหล่งโภชนาการเสริมสุขภาพดวงตา

วิตามินบำรุงสายตา - พัฒนาการเด็ก

ดวงตา เป็นอวัยวะสำคัญที่ใช้ในการมองเห็นสิ่งต่าง ๆ การดูแลรักษาดวงตาให้มีสุขภาพดีอยู่เสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะนอกจากดวงตาและประสิทธิภาพในการมองเห็นของคนเราจะเสื่อมถอยไปตามกาลเวลาดังเช่นอวัยวะอื่น ๆ ในร่างกายแล้ว ปัจจัยแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกอาจส่งผลต่อการเกิดปัญหาหรือการเจ็บป่วยของดวงตาได้ ซึ่งจะกระทบต่อทัศนวิสัยในการมองเห็นได้ก่อนเวลาอันควร ในทางโภชนาการ การบริโภควิตามินบางชนิดก็อาจมีประโยชน์ต่อการบำรุงและถนอมสายตาได้เช่นกัน หลายคนอาจเคยทราบมาว่า วิตามินเอ อาจช่วยบำรุงสายตา ช่วยในการมองเห็นให้ทัศนวิสัยชัดเจนขึ้น แต่ในทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ อาจยังมีข้อสงสัยว่า ข้อมูลเกี่ยวกับวิตามินเอเหล่านั้นเป็นความจริงหรือไม่ และนอกเหนือจากวิตามินเอแล้ว วิตามินอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย จะเป็นประโยชน์ต่อสายตาและการมองเห็นด้วยหรือไม่ วิตามินชนิดใดบ้าง ที่อาจช่วยบำรุงสายตาได้ ? วิตามินเอ (Vitamin A) วิตามินเอ เป็นวิตามินบำรุงสายตาและการมองเห็น กระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ และการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย วิตามินเอ แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ เรตินอยด์ (Retinoids) เป็นวิตามินเอชนิดที่มักได้รับจากการบริโภคอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เบต้า แคโรทีน (Beta-carotene) เป็นวิตามินเอชนิดที่มักได้รับจากการบริโภคอาหารประเภทพืช ผัก ผลไม้ โดยแหล่งอาหารที่สำคัญของ วิตามินเอ ได้แก่ เนื้อสัตว์ ตับ เครื่องในสัตว์ เนื้อปลา โดยเฉพาะปลาแซมอน […]

วัคซีน ผู้สูงอายุ ภูมิต้านทานที่ร่างกายต้องการ

วัคซีน ผู้สูงอายุ - พัฒนาการเด็ก

ถ้าพูดถึงวัคซีน ผู้สูงอายุ หลายคนอาจสงสัยว่าผู้สูงอายุยังจำเป็นต้องฉีดวัคซีนอยู่หรือไม่ แต่ที่จริงแล้ว ผู้สูงอายุเป็นวัยที่ควรได้รับวัคซีนเช่นเดียวกันกับวัยเด็ก เนื่องจากประสิทธิภาพในการป้องกันโรคจากวัคซีนที่ฉีดตั้งแต่วัยเยาว์อาจลดลงตามอายุที่มากขึ้น การใช้ชีวิต และปัญหาทางสุขภาพ จึงอาจเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้ เราต่างทราบกันดีว่า อายุที่มากขึ้นนั้นสวนทางกับระบบภูมิคุ้มกันร่างกายที่อ่อนแอลงเรื่อย ๆ ผู้สูงอายุ โดยเฉพาะวัย 60 ปีขึ้นไป มักจะมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายหรือติดเชื้ออย่างรุนแรง หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนสูง จนอาจต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ทว่าโรคติดเชื้อบางประการแก้ไขได้ด้วยการฉีดวัคซีน ซึ่งแม้จะไม่สามารถป้องกันการเกิดโรคได้ 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม แต่จะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายและลดระดับความรุนแรงของโรคได้ วัคซีนในผู้สูงอายุที่สำคัญ โดยทั่วไปแล้วมีวัคซีนในผู้สูงอายุหลายชนิดที่ควรฉีด ผู้ป่วยจึงควรปรึกษาและขอคำแนะนำต่าง ๆ ที่ควรทราบจากแพทย์ก่อนเสมอ เพื่อเตรียมพร้อมก่อนการฉีดวัคซีนและเพิ่มความปลอดภัยต่อร่างกาย โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือประวัติทางสุขภาพอื่นใด โดยตัวอย่างของวัคซีน ผู้สูงอายุควรได้รับจะมีดังนี้ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดใหญ่เป็นการติดเชื้อไวรัสตามฤดูกาลที่ก่อให้เกิดอาการระดับปานกลางไปจนถึงรุนแรงภายในไม่กี่วันหลังได้รับเชื้อ เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ เจ็บคอ มีไข้ ปวดตามร่างกาย อ่อนเพลีย สั่น ปวดศีรษะ หรือไม่สบายหน้าอก ซึ่งจะต่างจากไข้หวัดธรรมดาที่จะปรากฏอาการอย่างช้า ๆ โดยผู้ป่วยสูงอายุอาจเสี่ยงมีอาการแย่ลงและเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงอย่างหลอดลมอักเสบและปอดอักเสบ และอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ดังนั้นการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้กับผู้สูงอายุเป็นประจำทุกปี ปีละ 1 ครั้ง […]

ปั่นจักรยาน ประโยชน์ ข้อควรระวัง และเคล็ดลับปั่นอย่างไรให้ปลอดภัย

ปั่นจักรยาน - พัฒนาการเด็ก

การปั่นจักรยานไม่ใช่เพียงการเดินทางที่จะช่วยประหยัดเงินค่าใช้จ่ายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิคอย่างหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับอวัยวะส่วนต่าง ๆ และช่วยเผาผลาญพลังงานได้ถึง 400 แคลอรี่ต่อชั่วโมง ซึ่งส่งผลให้ผู้ปั่นมีรูปร่างและสุขภาพที่ดีด้วย แต่ก่อนหันมาออกกำลังกายด้วยวิธีนี้ ควรศึกษาข้อมูลด้านต่าง ๆ อย่างถี่ถ้วนก่อนเป็นดีที่สุด ประโยชน์ของการปั่นจักรยาน การปั่นจักรยานเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวานประเภทที่ 2 โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น ทั้งยังช่วยควบคุมน้ำหนัก ส่งผลดีต่ออารมณ์และจิตใจ ช่วยให้อัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้นได้เกือบเท่ากับการวิ่ง และช่วยเผาผลาญแคลอรี่ในร่างกาย นอกจากนี้ การปั่นจักรยานเป็นการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกต่ำ จึงดีกับข้อกระดูกด้วย และยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงแก่กล้ามเนื้อบริเวณกลางลำตัว ก้น สะโพก และขา โดยเฉพาะกล้ามเนื้อขาส่วนหน้าและกล้ามเนื้อขาส่วนหลัง สำหรับผู้ที่ต้องการออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน หากเป็นผู้ใหญ่และผู้สูงอายุควรปั่นจักรยานอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ ส่วนเด็กหรือวัยรุ่นควรปั่นจักรยานอย่างน้อยวันละ 60 นาที เป็นประจำทุกวัน ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพปั่นจักรยานได้หรือไม่ ? การปั่นจักรยานเป็นการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกต่ำ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาข้ออักเสบบริเวณสะโพก หัวเข่า และข้อเท้า เพราะจะช่วยเสริมการทำงานของข้อกระดูก ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการปวดข้อ ทั้งยังดีต่อผู้ที่เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บบริเวณข้อกระดูก และผู้ที่ต้องการเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาด้วย ส่วนผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับแผ่นหลังก็สามารถปั่นจักรยานได้เช่นกัน แต่ควรออกกำลังกายรูปแบบอื่นเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อกลางลำตัวร่วมด้วย นอกจากนี้ การปั่นจักรยานยังช่วยบริหารหัวใจสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง […]

นมถั่วเหลือง กับคุณประโยชน์ต่อสุขภาพที่หลายคนอาจไม่เคยรู้

นมถั่วเหลือง - พัฒนาการเด็ก

นมถั่วเหลือง (Soy Milk) เป็นเครื่องดื่มที่มีรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ต่างจากนมวัวและนมจากพืชชนิดอื่น ๆ อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการค่อนข้างสูง ทั้งโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ อีกทั้งยังหาดื่มได้ง่าย จึงทำให้นมถั่วเหลืองได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานจากคนหลากหลายกลุ่ม รวมถึงผู้สูงอายุ และมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มดูแลสุขภาพและมือโปรที่ออกกำลังกายเป็นประจำ หลักฐานทางวิทยาศาสตร์หลายชิ้นให้ความเห็นว่านมถั่วเหลืองเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพในหลายด้าน เพราะให้พลังงานต่ำ ไขมันต่ำ ไม่มีคอเลสเตอรอล ถือเป็นอีกทางเลือกในการควบคุมน้ำหนักและอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังบางชนิดที่มีสาเหตุมาจากปัจจัยดังกล่าว นอกจากนี้ นมถั่วเหลืองยังไม่มีแลคโตส ผู้ที่แพ้นมวัวและภาวะไม่ทนทานต่อน้ำตาลแลคโตส (Lactose Intolerance) จึงดื่มได้โดยไม่เกิดผลข้างเคียง บทความนี้ยังมีประโยชน์อื่น ๆ และวิธีการเลือกนมถั่วเหลืองที่ดีต่อสุขภาพมาให้ได้อ่านกัน นมถั่วเหลือง ดื่มแล้วดียังไง ? นมถั่วเหลืองเป็นผลิตภัณฑ์จากการนำเมล็ดถั่วเหลืองไปผ่านกรรมวิธีที่หลากหลายและกลั่นออกมาเป็นเครื่องดื่ม เดิมทีถั่วเหลืองเองก็เป็นวัตถุดิบที่ขึ้นชื่อเรื่องประโยชน์ต่อสุขภาพ สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูหรือนำมาทำเป็นเครื่องดื่ม แต่หากใครไม่มีเวลามากพอที่จะทำเองที่บ้านอาจจะเลือกซื้อนมถั่วเหลืองพร้อมดื่มในรูปแบบกล่อง เพราะหาซื้อได้ง่ายและคงคุณประโยชน์ได้เหมือนกัน อีกทั้งนมถั่วเหลืองบางยี่ห้อยังเพิ่มสารอาหารที่มีประโยชน์อื่น ๆ ลงไป จึงเป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพที่ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนมากขึ้น คราวนี้มาลองคุณค่าทางสารอาหารและประโยชน์ของนมถั่วเหลืองที่หลายคนอาจไม่เคยรู้กัน โปรตีนสูง หลายคนอาจคิดว่าผลิตภัณฑ์จากพืชย่อมต้องมีโปรตีนน้อยกว่าผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แต่ความเข้าใจนี้อาจไม่ถูกต้องเสมอไป เพราะนมถั่วเหลือง 1 แก้วหรือประมาณ 240 มิลลิลิตรมีโปรตีนถึง 7 กรัม ซึ่งใกล้เคียงกับปริมาณโปรตีนจากนมวัวในปริมาณเดียวกัน อีกทั้งการได้รับโปรตีนจากพืชยังดีต่อสุขภาพหัวใจมากกว่าโปรตีนจากสัตว์อีกด้วย ร่างกายคนเราในแต่ละวันต้องการโปรตีนราว 0.8 กรัมต่อน้ำหนักตัว […]

ถนอมสายตา อย่างไร ไม่ให้เสื่อมก่อนวัย

ถนอมดวงตา อย่างไร - พัฒนาการเด็ก

ดวงตาของคนเรามีความละเอียดอ่อนและต้องการดูแลเป็นพิเศษ เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุอายุมากขึ้นบวกกับปัจจัยกระตุ้นอื่น ๆ ทำให้ดวงตาเหนื่อยล้าและเสื่อมก่อนวัยได้ง่าย การดูแลถนอมสายตา อย่างไรถูกวิธีจะช่วยถนอมสายตาให้แข็งแรงและสดใสอยู่กับคุณไปนานเท่านานด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ ต่อไปนี้ ถนอมสายตา อย่างไร ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อุดมด้วยสารอาหารครบถ้วน สุขภาพดวงตาที่ดีเริ่มต้นจากอาหารที่เรารับประทาน การเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน 5 หมู่ โดยเฉพาะอาหารที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ลูทีน ซิงค์ วิตามินซี วิตามินอี อาจจะช่วยชะลอหรือลดการเกิดโรคทางสายตา เช่น โรคจอตาเสื่อม (Macular Degeneration) และโรคต้อกระจก (Cataracts) แหล่งสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพดวงตา เช่น ผักโขม หรือผักใบเขียวเข้มอื่น ๆ ปลาแซมอน ปลาทูน่า หรือเนื้อปลาที่มีกรดไขมันจำเป็นสูง ไข่ ถั่ว โปรตีนที่ไม่ได้มาจากเนื้อสัตว์ ส้ม ผลไม้หรือน้ำผลไม้รสเปรี้ยว หอยนางรม เนื้อหมู สัตว์ปีก ธัญพืช ผักผลไม้ที่มีสีเหลืองหรือส้ม ซึ่งมีสารเบต้าแคโรทีน เช่น แครอท ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกเหนือจากการรับประทานในสัดส่วนที่เหมาะสม ในแต่ละสัปดาห์ควรมีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ห่างไกลจากโรคอ้วน […]

งานอดิเรก เลือกให้เหมาะ เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งกายใจ

งานอดิเรก - พัฒนาการเด็ก

งานอดิเรกเป็นกิจกรรมในยามว่างที่ช่วยผ่อนคลายอารมณ์และความเครียดจากการเรียนหรือการทำงาน เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ช่วยเพิ่มทักษะ ความรู้ และประสบการณ์ต่าง ๆ มากมาย ทั้งยังส่งผลดีต่อสุขภาพอย่างหลากหลายได้ด้วย โดยแต่ละคนก็จะมีงานอดิเรกที่แตกต่างกันไปตามความสนใจและความถนัดของตนเอง เช่น อ่านหนังสือ วาดภาพ ดูโทรทัศน์ ร้องเพลง และเล่นกีฬา เป็นต้น งานอดิเรก มีกี่ประเภท อะไรบ้าง ? งานอดิเรกที่เน้นความชอบและการใช้ทักษะ เป็นงานอดิเรกที่ไม่เน้นความคล่องตัวหรือการเคลื่อนไหวร่างกาย แต่มักเกิดจากความชอบ ความสนใจ และทักษะของแต่ละคน เช่น ฟังเพลง ดูภาพยนตร์ อ่านหนังสือ ประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ ทำอาหาร วาดภาพระบายสี เล่นเกม เล่นปริศนาอักษรไขว้ ต่อโมเดล ทำเครื่องปั้นดินเผา แต่งหน้า จัดดอกไม้ รวมถึงเลี้ยงสัตว์ไว้เพื่อดูเล่นหรือเพื่อความเพลิดเพลิน เป็นต้น งานอดิเรกที่เน้นการเคลื่อนไหวร่างกาย เป็นงานอดิเรกที่ต้องอาศัยความคล่องตัวและการเคลื่อนไหวร่างกายในรูปแบบต่าง ๆ เช่น เล่นเทนนิส บาสเกตบอล ฟุตบอล ปิงปอง โบว์ลิ่ง ว่ายน้ำ โยคะ วิ่ง เต้นรำ แสดงละครเวที […]

คาโมมายล์ สมุนไพรที่ช่วยให้ผ่อนคลายและบำรุงสุขภาพ

คาโมมายล์ - พัฒนาการเด็ก

คาโมมายล์ หนึ่งในดอกไม้ที่คนนิยมนำมาทำให้แห้งแล้วชงดื่มเป็นชา หรือนำมาเป็นส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหย โดยเชื่อว่าอาจช่วยให้นอนหลับได้ดียิ่งขึ้น คลายความวิตกกังวล บำรุงระบบย่อยอาหาร และยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณสมบัติต้านมะเร็งด้วย คุณประโยชน์ของคาโมมายล์ คาโมมายล์เป็นดอกไม้สมุนไพรในตระกูลเดียวกับเดซี่ พืชทั้ง 2 ชนิดนี้จึงมีรูปร่างหน้าตาค่อนข้างคล้ายคลึงกัน โดยมีดอกสีขาวและมีเกสรตรงกลางเป็นสีเหลือง ชาที่ชงจากดอกคาโมมายล์จะมีรสหวาน ไม่ได้ขมเหมือนชาเขียวและชาดำ เนื่องจากเป็นพืชที่ปราศจากคาเฟอีน จึงนับเป็นอีกตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการหลีกเลี่ยงการบริโภคคาเฟอีน นอกจากนี้ คาโมมายล์ยังประกอบไปด้วยสารที่อาจมีฤทธิ์ช่วยเพิ่มความผ่อนคลายและอาจช่วยให้นอนหลับสบาย รวมถึงมีสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจป้องกันการเกิดโรคร้ายต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็ง และโรคหัวใจ เป็นต้น คาโมมายล์ถูกนำมาใช้ประโยชน์เป็นยาสมุนไพรตามความเชื่อโบราณอย่างยาวนานและแพร่หลาย แต่ก็ยังมีหลักฐานทางทางวิทยาศาสตร์ค่อนข้างจำกัดเกี่ยวกับสรรพคุณที่แน่ชัดของมัน โดยมีการศึกษาวิจัยบางส่วนที่ค้นคว้าคุณสมบัติของคาโมมายล์ในด้านต่าง ๆ ไว้ ดังนี้ ช่วยให้หลับสบายยิ่งขึ้น ตามตำรับยาแผนโบราณ คาโมมายล์เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะสมุนไพรที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและทำให้นอนหลับสบาย ซึ่งนักวิจัยคาดว่าคุณสมบัติดังกล่าวเป็นผลจากการมีสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มฟลาโวนอยด์อย่างอะพิจีนีนอยู่ในคาโมมายล์นั่นเอง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีการพิสูจน์สรรพคุณด้านนี้ของคาโมมายล์ โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งทดลองให้ผู้ป่วยอายุ 18-65 ปี จำนวน 34 คนที่มีอาการนอนไม่หลับมานานกว่า 6 เดือน บริโภคคาโมมายล์ครั้งละ 270 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 28 สัปดาห์ ผลลัพธ์พบว่าคาโมมายล์ช่วยให้ผู้ป่วยที่มีอาการนอนไม่หลับเรื้อรังเหล่านี้นอนหลับได้ดีขึ้นในระดับปานกลาง […]

ความดันต่ำ อาการที่ต้องระวังและวิธีดูแลตนเองเบื้องต้น

ความดันต่ำ - พัฒนาการเด็ก

ความดันต่ำ เป็นภาวะความดันโลหิตในหลอดเลือดแดงต่ำกว่าปกติ มักทำให้มีอาการป่วย เช่น เวียนศีรษะ มองเห็นไม่ชัด คลื่นไส้ สับสน ใจสั่น ผิวซีด ผิวหนังเย็นหรือชื้นผิดปกติ เสียการทรงตัว ร่างกายอ่อนแอ ชีพจรเต้นเร็ว เป็นลม หรืออาจเกิดอาการช็อกได้หากภาวะความดันต่ำมีความรุนแรงมาก ซึ่งอาการจากภาวะความดันต่ำเหล่านี้อาจรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน หรือก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพร่างกายและชีวิตของผู้ป่วยได้ ดังนั้น ผู้ป่วยควรสังเกตอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตนเองและผู้สูงอายุ เพื่อตรวจรักษาได้ทันท่วงที และหาวิธีดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสม ความดันต่ำเป็นอย่างไร ? การวัดค่าความดันโลหิตในหลอดเลือดแดงมีค่าความดันโลหิตตัวบน (Systolic Pressure) เป็นแรงดันในขณะที่หัวใจกำลังบีบตัวหรือสูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงร่างกาย และค่าความดันโลหิตตัวล่าง (Diastolic Pressure) เป็นค่าแรงดันในขณะที่หัวใจกำลังคลายตัว โดยระดับความดันโลหิตปกติจะอยู่ประมาณที่ 120/80 มิลลิเมตรปรอท ส่วนภาวะความดันโลหิตต่ำ แพทย์จะวินิจฉัยว่าผู้ป่วยมีภาวะนี้ต่อเมื่อมีค่าความดันโลหิตต่ำกว่า 90/60 มิลลิเมตรปรอท ร่วมกับมีอาการป่วยแสดงออกมา สำหรับผู้ที่มีความดันต่ำกว่า 90/60 มิลลิเมตรปรอท แต่ไม่พบอาการผิดปกติใด ๆ ในทางการแพทย์ยังจัดว่าสุขภาพเป็นปกติดี ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษา ความดันต่ำเกิดจากอะไร ? ระดับความดันโลหิตจะแตกต่างกันไปตามอิริยาบถของร่างกาย จังหวะการหายใจ สภาพร่างกาย ระดับความเครียด อาหารหรือเครื่องดื่มที่บริโภค […]

กระดูกสะโพกหัก อาการ สาเหตุ การรักษากระดูกสะโพกหัก

กระดูกสะโพกหัก - พัฒนาการเด็ก

กระดูกสะโพกหัก คือการหักของกระดูกต้นขา ถือเป็นอาการบาดเจ็บที่รุนแรง มักพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ เพราะเป็นวัยที่กระดูกเปราะบางและเกิดการแตกหักได้ง่าย ส่วนใหญ่สามารถรักษาให้หายได้ด้วยการผ่าตัด แต่ในบางรายที่มีภาวะแทรกซ้อนอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต กระดูกสะโพกหักส่วนใหญ่เป็นการแตกหักบริเวณคอกระดูกต้นขาต่อกับกระดูกเชิงกรานหรือบริเวณคอคอดของกระดูกต้นขา โดยอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ส่วนมากมักเป็นผลมาจากการกระแทกจากการหกล้มและกระดูกอ่อนแอลงจากปัญหาสุขภาพบางประการ อาการของกระดูกสะโพกหัก ผู้ป่วยกระดูกสะโพกหักอาจเกิดอาการดังต่อไปนี้ ปวดบริเวณสะโพกหรือขาหนีบอย่างรุนแรง ไม่สามารถยกหรือขยับขาได้ทันทีหลังจากหกล้ม ไม่สามารถยืนหรือลงน้ำหนักด้วยเท้าข้างเดียวกับกระดูกสะโพกที่หัก บริเวณสะโพกแข็งเกร็ง บวม หรือมีรอยฟกช้ำ ขาข้างที่กระดูกสะโพกหักจะดูสั้นผิดปกติหรืออาจมีลักษณะบิดออกไปด้านนอก อย่างไรก็ตาม บางรายอาจมีเพียงอาการเจ็บปวดบริเวณสะโพก ก้น ขาอ่อน ขาหนีบ หรือหลังเท่านั้น แต่ยังสามารถเดินได้เป็นปกติ หากสงสัยว่ากระดูกสะโพกหักควรรีบพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาทันที สาเหตุของกระดูกสะโพกหัก กระดูกสะโพกหักในคนทั่วไปมักเกิดจากอุบัติเหตุอย่างการถูกรถชน ส่วนคนสูงอายุมักกระดูกสะโพกหักจากการหกล้ม โดยมีปัจจัยที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดกระดูกสะโพกหักมากขึ้นดังนี้ อายุมาก ด้วยกระดูกที่เสื่อมสภาพลงและมวลกล้ามเนื้อที่น้อยลงไปตามอายุ ผู้สูงอายุจึงมักเกิดปัญหากระดูกหักได้ง่ายกว่าคนวัยอื่น โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาในการมองเห็นหรือการทรงตัวที่มักเสี่ยงต่อการหกล้ม เพศหญิง เมื่อสตรีเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดลง ส่งผลให้ร่างกายสูญเสียมวลกระดูกเร็วขึ้น กระดูกจะพรุนและเปราะบางเร็ว ซึ่งจะตรงกันข้ามกับเพศชายที่จะค่อย ๆ สูญเสียมวลกระดูกอย่างช้า ๆ ปัญหาสุขภาพ หากกระดูกสะโพกข้างใดข้างหนึ่งเคยหักมาก่อนก็มีโอกาสสูงที่กระดูกสะโพกอีกข้างจะหักตาม รวมทั้งผู้ที่มีปัญหาสุขภาพบางอย่างก็อาจทำให้กระดูกสะโพกเสี่ยงต่อการหักได้ง่ายขึ้น เช่น โรคระบบต่อมไร้ท่ออย่างไทรอยด์เป็นพิษอาจส่งผลให้กระดูกบาง โรคเกี่ยวกับลำไส้อาจลดการดูดซึมของวิตามินดีและแคลเซียมจนกระดูกอ่อนแอ ปัญหาเกี่ยวกับสมองหรือระบบประสาทอาจทำให้ผู้ป่วยหกล้มได้ง่าย อย่างความทรงจำบกพร่อง สมองเสื่อม โรคพาร์กินสัน […]